วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558

"มหาชนบท ๑๖ ในสมัยพุทธกาล"

"มหาชนบท ๑๖ ในสมัยพุทธกาล"
มหาชนบท ๑๖ ในสมัยพุทธกาล หมายถึง แคว้นขนาดใหญ่ หรือรัฐ ๑๖ รัฐ ตามที่ปรากฏในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ดังนี้
          ๑. แคว้นกัมโพชะ มีเมืองหลวงชื่อ ทวารกะ
          ๒.แคว้นกาสี มีเมืองหลวงชื่อ พาราณสี
          ๓.แคว้นกุรุ มีเมืองหลวงชื่อ อินทปัถะ
          ๔.แคว้นโกศล มีเมืองหลวงชื่อ สาวัตถี
          ๕.แคว้นคันธาระ มีเมืองหลวงชื่อ ตักศิลา
          ๖.แคว้นเจตี มีเมืองหลวงชื่อ โสตถิวดี
          ๗.แคว้นปัญจาละ มีเมืองหลวงชื่อ กัมปิลละ
          ๘.แคว้นมคธ มีเมืองหลวงชื่อ ราชคฤห์
          ๙.แคว้นมัจฉะ มีเมืองหลวงชื่อ วิราฎ
          ๑๐.แคว้นมัละ มีเมืองหลวงชื่อ กุสาวดี (แต่ภายหลังแยกเป็นกุสินาราและปาวา)
          ๑๑.แคว้นวังสะ มีเมืองหลวงชื่อ โกสัมพี
          ๑๒.แคว้นวัชชี มีเมืองหลวงชื่อ เวสาลี (ไพศาลี)
          ๑๓.แคว้นสุระเสนะ มีเมืองหลวงชื่อ มถุรา
          ๑๔.แคว้นอวันตี มีเมืองหลวงชื่อ อุชเชนี
          ๑๕.แคว้นอังคะ มีเมืองหลวงชื่อ จัมปา
          ๑๖.แคว้นอัสสกะ มีเมืองหลวงชื่อ โปตลิ (โปตละ)
















ภาพจากเวปhttp://www.madchima.org/forum/index.php?topic=12422.0

นอกจากมหาชนบทหรืออาณาจักร ๑๖ นี้แล้ว ยังมีแคว้นอื่นๆ ที่ปรากฏในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ที่พอจะประมวลมาได้ดังนี้
          ๑. แคว้นโกลิยะ มีเมืองหลวงชื่อ เทวทหะ (รามคาม)
          ๒.แคว้นภัคคะ มีเมืองหลวงชื่อ สุงสุมารคีระ
          ๓.แคว้นมัททะ มีเมืองหลวงชื่อ สาคละ
          ๔.แคว้นวิเทหะ มีเมืองหลวงชื่อ มิถิลา
          ๕.แคว้นสักกะ มีเมืองหลวงชื่อ กบิลพัสดุ์
          ๖.แคว้นสุนาปรันตะ มีเมืองหลวงชื่อ สุปปารกะ
          ๗. แคว้นอังคุตตราปะ เมืองหลวงเป็นเพียงนิคมชื่ออาปณะ
มหาชนบท หรืออาณาจักร ๑๖ ในสมัยพุทธกาล เท่าที่ค้นพบหลักฐานในปัจจุบัน ได้แก่ อาณาเขตและเมืองดังต่อไปนี้
          ๑. แคว้นกัมโพชะ ตั้งอยู่เหนือแคว้นคันธาระ ตั้งอยู่เหนือสุดของชมพูทวีป มีเมืองหลวงชื่อทวารกะ (ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศอัฟกานิสถาน)
          ๒.แคว้นกาสี ตั้งอยู่ตอนบรรจบของแม่น้ำคงคาและยมุนานครหลวงชื่อ พาราณสี อยู่เหนือแคว้นมคธ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ของแคว้นโกศล มีแคว้นวัชชีและแคว้นวิเทหะอยู่ทางตะวันออก มีแคว้นวังสะอยู่ทางตะวันตก ในสมัยพุทธกาลแคว้นกาสีถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นโกศล (ปัจจุบันเรียกว่า วาราณสี)
          ๓.แคว้นกุรุ ตั้งอยู่บนลุ่มแม่น้ำยมุนาตอนบนอยู่เหนือแคว้นมัจฉะ สุรเสนะ และปัญจาละ มีเมืองหลวงชื่อ อินทปัตถะ (ปัจจุบันเป็นดินแดนราวแคว้นปัญจาบและเมืองเดลีนครหลวงของประเทศอินเดีย)
          ๔.แคว้นโกศล ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาหิมาลัยกับแม่น้ำคงคาตอนกลาง ทิศเหนือจดภูเขาหิมาลัยตะวันตก ทิศใต้จดแม่น้ำคงคา ทิศตะวันออกจดแคว้นกาสีต่อกับแคว้นมคธ นครหลวงชื่อสาวัถี (ปัจจุบันเป็นดินแดนราวเมืองอโยธยา หรือ โอธ บัดนี้เรียกว่า สะเหต-มะเหต ตั้งอยู่บนฝั่งลำน้ำอจิรวดีหรือรับดิ ห่างจากเมืองโอธไปทางทิศเหนือราว ๘๐ กิโลเมตร และอยู่ทางทิศใต้ห่างจากเขตแดนประเทศเนปาลราว ๕๐ กิโลเมตรแคว้นโกศลคือ อุตรประเทศในปัจจุบัน)
          ๕.แคว้นคันธาระ ตั้งอยู่ทางลุ่มแม่น้ำสินธุตอนบน อยู่ทางเหนือสุดของชมพูทวีป มีเพียงแคว้นกัมโพชะอยู่เหนือขึ้นไป นครหลวงชื่อตักศิลา (ปัจจุบันเป็นดินแดนนี้อยู่ราวพรมแดนทิศนะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย ตรงกับแคว้านปัญจาบภาคเหนือ อยู่ติดกับแคว้นกัษมีระหรือแคชเมียร์ นครหลวงชื่อตักสิสา อยู่ในดินแดนประเทศปากีสถาน)
          ๖.แคว้นเจตี ตั้งอยู่ลุ่มแม่น้ำคงคา ติดต่อกับแคว้นวังสะทางทิศตะวันออก มีแคว้นวันตีอยู่ทางทิศตะวันตก นครหลวงชื่อโสตถิวดี
          ๗.แคว้นปัญจาละ ตั้งอยู่ลุ่มแม่น้ำคงคาตอนบน มีแม่น้ำภาคีรถีซึ่งเป็นแควหนึ่งของแม่น้ำคงคาตอนบนไหลผ่าน มีแคว้นโกศลอยู่ทางทิศตะวันออก มีแคว้นกุรุอยู่ทางทิศตะวันตก ภูเขาหิมาลัยอยู่ทางทิศเหนือแม่น้ำคงคาอยู่ทางทิศใต้ เมืองหลวงของแคว้นนี้เดิมชื่อ หัสดินาปุระหรือหัสดินต่อมาจึงแยกไปตั้งนครหลวงใหม่คือกัมปิลละตั้งอยู่เหนือแม่น้ำคงคา ถัดลงมาถึงเมืองสังกัสสะ และถึงเมืองกันยากุพชะ(บัดนี้เรียกว่ากะเนาซ์ปัจจบันดินแดนแห่งนี้ อยู่ราวเมืองอัคราของประเทศอินเดีย)
          ๘.แคว้นมคธ ตั้งอยู่ใต้แม่น้ำคงคาตอนกลางมีแม่น้ำคงคาอยู่ห่างทิศเหนือ และมีภูเขาวินชัยอยู่ทางทิศใต้และทิศตะวันตก ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำโสนกับแคว้นอังคะ นครหลวงชื่อราชคฤห์ ตั้งอยู่ในเขตภูเขา ๕ ลูกล้อมรอบคือ ภูเขาคิชณกูฏ อิสิคิสิ ปัพภาระ เวภาระ และเวปุลละเรียกว่าเบญจคีรี ต่อมาพระเจ้าอุทายีพระราชนัดดาของพระเจ้าอชาตศัตรูได้ย้ายนครหลวงไปที่เมืองปาฏลีบุตร บนฝั่งแม่น้ำคงคาเหนือเมืองราชคฤห์ขึ้นไป (ปัจจุบันดินแดนแห่งนี้คือแคว้นพิหารของประเทศอินเดียนครราชคฤห์ บัดนี้เรียกว่า ราชคีร์ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองปัตนะเมืองหลวงปัจจุบันของแคว้นพิหารไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ ๖๕ กิโลเมตร นครปาฏลีบุตร บัดนี้เรียกว่าปัตนะ)
          ๙.แคว้นมัจฉะ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสินธุกับยมุนาตอนบนมีแคว้นโกศลอยู่ทางทิศตะวันออก มีแคว้นกุรุอยู่ทางทิศเหนือ มีแคว้นสุรเสนะ อยู่ทางทิศใต้ นครหลวงชื่อวิราฏ
          ๑๐.แคว้นมัลละ ตั้งอยู่ถัดจากแคว้นโกศลไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ทางเหนือของแคว้นวัชชี และทางทิศตะวันออกของแคว้นสักกะ นครหลวงชื่อกุสาวดี แต่ภายหลังแยกเป็นนครกุสินาราและนครปาวา นครกุสินารา ตั้งอยู่ในจุดบรรจบของแม่น้ำรับดิและคันธกะส่วนนครปาวาอยู่ระหว่างนครกุสินารากับนครเวลสาลีเมืองหลวงของแคว้นวัชชี (ปัจจุบันเมืองกุสินาราอยู่ในเขตประเทศอินเดียเหนือประเทศเนปาล เมืองกุสินาราบัดนี้เรียกว่าเมืองกาเซีย ส่วนนครปาวา บัดนี้เรียกว่าเมืองปัทระโอนะ)
          ๑๑.แคว้นวังสะ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของลำน้ำยมุนา ทิศใต้ของแคว้นโกศล และทางทิศตะวันตกของแคว้นกาสี นครหลวงชื่อโกสัมพี ตั้งอยู่เหนือฝั่งแม่น้ำยมุนา (ปัจจุบันนครโกสัมพี เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อว่าโกสัมอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอัลลาฮาบัด)
          ๑๒.แคว้นวัชชี ตั้งอยู่บนฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำคันธกะอยู่ทางทิศตะวันออกของแคว้นมัลละ ทางทิศเหนือของแคว้นมคธ นครหลวงชื่อเวสาลี หรือไพศาลี (ปัจจุบันนครเวสาลีบัดนี้เรียกว่า เบสาห์อยู่ห่างจากเมืองปัตนะไปทางทิศเหนือราว ๔๕ กิโลเมตร)
          ๑๓.แคว้นสุรเสนะ ตั้งอยู่ระหว่างลำน้ำสินธุกับยมุนาตอนล่าง ตั้งอยู่ทางใต้ของแคว้นกุรุ แคว้นปัญจาละอยู่ทางทิศตะวันออก นครหลวงชื่อมถุรา (ปัจจุบันดินแดนแห่งนี้อยู่ราวแคว้นราชสถานของประเทศอินเดีย และนครมถุราอยู่ราวเมืองมัตตรา)
          ๑๔.แคว้นอวันตี หรือแคว้นมาลวะ ตั้งอยู่เหนือภูเขาวินธัย ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นอัสสกะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นวังสะ นครหลวงชื่ออุชเชนี (บัดนี้คือเมืองอุเทนในประเทศอินเดีย)
          ๑๕.แคว้นอังคะ ตั้งอยู่ปลายแม่น้ำคงคา ทางทิศตะวันออกของแคว้นมคธ มีแม่น้ำจัมปากั้นแดน มีนครหลวงชื่อจัมปา ตั้งอยู่เหนือฝั่ง แม่น้ำคงคา ด้านขวา (ปัจจุบันดินแดนแห่งนี้อยู่ราวรัฐเบงคอลของประเทศอินเดีย นครจัมปา บัดนี้เรียกว่า ภคัลปูร์)
          ๑๖.แคว้นอัสสกะ ตั้งอยู่ลุ่มแม่น้ำโคธาวรี ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นอวันตี อยู่ติดแนวของดินแดนทักขิณาบถคือเมืองแถบใต้ มีนครหลวงชื่อโปตลิหรือโปตละ


ที่มา :http://www.dhammathai.org/buddha/g42.php

 หนังสือ ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า โดย ภัทรวรรณ วันทนชัยสุข

ชุมนุม 5 ชุมนุม ในสมัยกรุงธนบุรี



มีดังนี้

1. เมืองพระฝาง คือกลุ่มชาวบ้านที่มีหัวหน้าชื่อ เรือน ซึ่งในอดีตเป็นพระภิกษุ ชั้นราชาคณะ ของ เมืองเหนือ เรียกว่า สังฆราชเรือน ได้สึกออกมาและรวบรวมผู้คนซ่องสุมกำลังป้องกันตนเอง อยู่ที่เมืองฝาง ซึ่งเป็นเมืองชายแดนเหนือสุดตามลำแม่น้ำน่านของกรุงศรีอยุธยา เป็นเมืองที่มีพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งเมืองฝางยังเป็นดินแดนของแคว้นสุโขทัย ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ตำบลผาจุก อำเภอเมือง
จังหวัดอุตรดิตถ์
2. เมืองพิษณุโลก ซึ่งเคยเป็นหัวเมืองทางเหนือที่สำคัญของอยุธยา และเคยเป็นเมืองสำคัญของสุโขทัย มาก่อน เจ้าเมืองพิษณุโลก ( เรือง ) ได้สถาปนาตนขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน และรวบรวมบ้านเมืองที่เคยเป็นเมืองทางเหนือ ของอยุธยาไว้ด้วยกันแต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ จึงมีอำนาจอยู่เฉพาะที่เมืองพิษณุโลกเท่านั้น
3. เมืองพิมาย มีเจ้าพิมายรวบรวมผู้คนในละแวกเมืองพิมาย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีผู้คนมาก เนื่องจากเป็น ดินแดนของการตั้งรกรากที่อาศัยมาแต่ดั้งเดิม และเป็นบ้านเมืองที่เจริญมาตั้งแต่ราชอาราจักรขอมกัมพูชา กรมหมื่นเทพพิพิธ เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงของราชสำนักอยุธยาได้หนีมาอยู่กับเจ้าพิมายด้วย แต่อำนาจทั้งหลายยังคงอยู่ที่เจ้าพิมายซึ่งมีฐานกำลังของคนพื้นเมืองพวกเดียวกัน
4. เมืองนครศรีธรรมราช เมืองใหญ่บนดินแดนแหลมมลายูของราชอาณาจักรอยุธยาเดิมและเคยเป็นเมืองสำคัญแต่โบราณ ที่ถูกอยุธยาผนวกดินแดนไว้ตั้งแต่ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ปลัดเมืองนครศรีธรรมราชชื่อหนูตั้งตัวเป็นใหญ่
หัวเมืองอื่นๆ ตั้งแต่ใต้เมืองไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป อาทิเช่นเมืองสงขลา เมืองพัทลุง ต่างก็ยอมรับอำนาจของเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ( หนู ) แต่โดยดี
5. เมืองจันทบุรี ซึ่งตั้งอยู่นอกเขตการรุกรานของกองทัพพม่าที่เข้ามาทำสงครามครั้งนี้ หัวหน้าคือพระยาตาก ( สิน ) ซึ่งต่อมาคือพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าพระเจ้าตากสินมหาราช ขุนนางหัวเมืองเหนือของกรุงศรีอยุธยาที่ถูกเรียกมาช่วยป้องกัน พระนครศรีอยุธยา ได้นำทหารหัวเมืองที่ติดตามมาด้วยกันประมาณ 500 กว่าคน ตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าที่ปิดล้อมกรุงศรีอยุธยาออกมาได้ และมาตั้งมั่นรวบรวมผู้คนจากบ้านเมืองแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกตั้งแต่ระยองลงไป


https://manechan.wordpress.com/2012/02/10/%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A1-5-%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A1-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8/